• Jungfrau

    ยอดเขายอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Top of Europe ภูเขาแห่งนี้จะถูกปกคลุ้มด้วยหิมะตลอดทั้งปี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4,158 เมตร

  • Interlaken

    Interlaken หรือเมืองสองทะเลสาบ เพราะเมืองแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun Lake และทะเลสาบ Brienz  จึงทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว   ถ้าหากจะเดินทางไปยังเทือกเขา Jungfra จะต้องผ่านยังเมืองแห่งนี้ เมือง Interlaken ถูกขนาบด้านหน้าหลังด้วยเทือกเขาเขียวชะอุ่ม ด้านซ้ายขวาของเมืองเป็นทะเลสาบและมีสถานีรถไฟ 2 สถานีขนาบด้านซ้ายและขวาของเมืองโดยมีถนนสายหลักตัดผ่านอยู่ 2 สถานี  การท่องเที่ยวภายในเมืองแห่งนี้สามารถเดินจากสถานีรถไฟหนึ่งไปอีกสถานีหนึ่งได้   สถานี Interlaken Ost จะเป็นพื้นที่ที่รวบรวมตึกสวยๆที่เป็นทั้งโรงแรม ร้านอาหารและคาสิโนต่างๆ พร้อมวิวด้านหลังเป็นภูเขาสีเขียวชะอุ่มรับหน้าร้อน ซักพักจะถึงสวน Höhematte ซึ่งมองออกไปเห็นเทือกเขาหิมะ 3 เทือกเขา ได้แก่ Jungfrao, Eiger และ Monch   สถานี Interlaken West  ล่องเรือท่องทะเลสาบ Thun Lake ทะเลสาบสีฟ้าสดที่รายล้อมด้วยภูเขาสีเขียวโดยมีจุดหมายปลายทางที่เมือง Spiez ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลสาบที่มีท่าเรือน่ารักๆเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ก่อนจะกลับมาขึ้นเขา Harder Kulm เพื่อชมวิวเมือง Interlaken แบบพาโนราม่า  และยังมีกิจกรรมน่าสนใจมากมายให้ได้ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการล่องทะสาบชมความงามของสายน้ำ และยอดเขาหิมะที่น่าอัศจรรย์ มีจักรยานให้เช่าสำหรับนักปั่น ที่อยากเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆที่ไกลออกไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์  ทุ่งกว้างในชนบาท และยังมีกิจกรรมโลดโผดอย่างกระโดดร่ม

  • Zermatt

    Zermatt  จัดว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของประเทศสวิสเซอร์แลนด์  ยอดเขา Zermatt  ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ไปเสียแล้ว จากที่เราจะคุ้นกันดีกับยอดภูเขาบนห่อช็อคโกแลต   มนต์เสน่ห์ของเมืองเล็กๆอย่างเซอร์แมท ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของภูเขา Matterhorn ที่สูงตระหง่านจรดฟ้า ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักปีนเขาและผู้ที่ชื่นชอบท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ  มักจะมาชมวิวทิวทัศน์และถ่ายภาพกันสวยๆบนภูเขาแห่งนี้  Zermatt มีจุดท่องเที่ยวสำคัญคือภูเขาลูกต่างๆ ที่มีกิจกรรมแตกต่างกันไป เช่น Gronergrat ซึ่งเป็นจุดชมวิว Matterhorn ยอดนิยม หรือ Matterhorn Gracier Paradise ที่เป็นที่เล่นสกีและกีฬาหิมะที่อยู่ใกล้กับ Matterhorn  ฉะนั้นหากใครที่คิดจะไปพักค้างคืนก็ต้องจองกันล่วงหน้า โดยเฉพาะในฤดูหนาว ถือว่ามีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ

  • Basel city

    คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับโรงละครและพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะที่มีการจัดแสดงงานศิลปะที่เก่าแก่สวยงาม นอกจากนี้ โรงละครในบาเซิลยังเป็นโรงละครที่มีการจัดแสดงโอเปร่าที่ดีที่สุดอีกด้วย สำหรับการเดินทางมายังเมืองแห่งนี้ไม่ยาก เพราะการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบาย เพียงนั่งรถไฟมาก็ถึงแล้ว

  • Castle of Chillon

    ปราสาทซิลยอง (Castle of Chillon)  หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า “ชาโต เดอ ชิลยอง” (Château de Chillon)

    เป็นปราสาทเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อคอยเก็บค่าผ่านทางของเรือที่ล่องผ่านทะเลสาบเจนีวา  ปราสาทซิลยองตั้งอยู่ทิศตะวันออกของทะเลสาบเจนีวา ห่างจากตัว เมืองมองเทรอซ์ ออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร ปราสาทชิลยองเป็นปราสาทที่มีความเก่าแก่มากกว่าถึง 1 พันปี ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยของโดยราชวงศ์ SAVOY แฝงไว้ด้วยศิลปะอันงดงามราวกับเทพนิยาย ในตัวปราสาทมีความกว้างขวาง โอ่โถง  มีห้องจัดเลี้ยงที่บรรจุคนได้จำนวนมาก  รวมถึงห้องนอนที่ได้รับการตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีห้องใต้ดินที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบของกอธิค และหอสวดมนต์ที่นับว่า เป็นห้องศักดิ์สิทธิ์ของปราสาท เป็นอาคารที่ใช้ประกอบพิธีกรรทางศาสนา ภายในถูกตกแต่งด้วยภาพเขียนที่หาดูได้ยาก

  • Trummelbach

    น้ำตกที่มีจำนวนทั้งหมด 10 ชั้น และหินรูปร่างแปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ  น้ำตก Trummelbach เป็นน้ำตกใต้พื้นดินที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยมีทั้งหมด 10 ชั้นซ่อนตัวอยู่ในภูเขา น้ำตกแห่งนี้เริ่มที่ความสูง 139.9 เมตร และมีปริมาณน้ำ 5,300 แกลลอนหรือ 20,000 ลิตรต่อวินาที   น้ำตก Trummelbach ตั้งอยู่ในหุบเขาเลาเทอร์บรุนเนน ห่างจากเมืองเลาเทอร์บรุนเนนออกไปเพียงไม่ถึง 3 กิโลเมตร บริเวณนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น หุบเขาแห่งน้ำตก 72 แห่ง เพราะเป็นที่ตั้งของน้ำตกจำนวนมาก เช่น น้ำตก Staubbach ซึ่งพุ่งดิ่งลงมาจากหน้าผาสูงเกือบ 300 เมตร หากใครต้องการที่จะเที่ยวน้ำตกแห่งนี้  สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน ตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงบ่ายแก่ๆ ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

  • Verzasca River

    Verzasca River (แม่น้ำ แฟช้าสก้า)  ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านลาเวอร์เตซโซ่  เป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นตามแบบในไสตล์ของยุคกลาง  หมู่บ้านนั้นถูกโอบโล้มไปด้วยธรรมชาติอันเขียวขจี  โดยตัวหมู่บ้านนั้นตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเวอร์ซาสก้า (Verzasca River)

    สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์เด็ดของหมู่บ้านที่คุณจะต้องไม่พลาดไปเยือนเป็นอันดับแรก คือ การไปชมความงดงามของสะพานหินโรมัน Ponte dei Salti หรือเรียกอีกอย่างว่า bridge of jumps  ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ถ้าหากไปยังสะพานแห่งนี้ก็จะสามารถเจอทั้งช่างภาพ นักดำน้ำ หรือ คนมาพักผ่อนเล่นน้ำกระโดดกันที่สะพานนี้อย่างสนุกสนาน

    Verzasca River (แม่น้ำ แฟช้าสก้า) ตั้งอยู่ในแคนตอน Ticino ทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอรแลนด์ ได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อน เพราะสามารถที่จะเดินศึกษาเส้นทางตามธรรมชาติได้ เส้นทางจะขนาบไปกับแม่น้ำที่มีความสวยงามราวกับคริสตัล

.
  • Fox Town Outlet

    Via Angelo Maspoli 18, 6850 Mendrisio, Switzerland +41 848 828 888

    Brand name fashion is available at huge discounts at Foxtown, the largest factory outlet shopping mall in Switzerland, near Lugano in Ticino. Shoppers travel from Milan in Italy to save and enjoy cheap bargains.

  • Einkaufszentrum Glatt

    Neue Winterthurerstrasse 99, 8304 Wallisellen, Switzaerland +41 44 839 42 42

    Around 100 stores selling the latest fashion, exclusive jewelry, watches, toys, electronic goods and much more besides invite visitors to come in and browse. The choice of culinary outlets is also broad: whether coffee and cake, sandwiches, pizza, sushi or specialties from the grill, there is something to suit every taste.

  • Buses The main Swiss cities boast efficient public transportation, with trams and buses forming the core of the urban network. A single short journey ticket costs around CHF 2.60 and is usually only valid for an hour. Depending on the travel required, it may be more economical to purchase a day pass for about CHF 8, a monthly pass or a prepaid discount card.
  • Trains  Switzerland has over 5,000 km of railroad track, of which about 60 percent is owned and operated by Switzerland's government-run transport provider (Schweizerische Bundesbahn or SBB in German, Chemins de Fer Fédéraux or CFF in French, and Ferrovie Federali Svizzere or FFS in Italian). Major cities are connected by InterCity trains, which run at least once every hour throughout the week. Switzerland does not have its own high-speed railway line, but foreign high-speed trains such as the French TGV and the German ICE run throughout Switzerland on a daily basis. Restaurants tend to be a standard facility on the main InterCity connections and international trains.
  • Other forms of transportationOther forms of transportation are also readily available. Ferryboats operate on all main lakes and it is also possible to rent bikes at most train stations. The only underground system in Switzerland was introduced in 2008 in the town of Lausanne. As is the case across Europe, taxis are readily available in the centres of all cities, but can be expensive. The cost often doubles after 22.00, thus it is advisable to ask the price beforehand.


Top 5 Swiss Foods

They are most notable for their amazing cheese that come from healthy raised cows in the crisp mountain air of Switzerland.  All vegetables and ingredients are extremely fresh and tasty.  Keep in mind that all the food is pretty expensive in Switzerland, so try to find the local food stands to save money.  Here is my list of the top Swiss dishes that you should try:


  • 1 Käsefondue

    Käsefondue

    Cheese Fondue is perhaps the most famous Swiss food out there. I am sure that you’ve all tried Cheese Fondue at some point, but for those who haven’t, it is a delicious melted cheese dish that you must get your hands on. It involves dipping bread and vegetables in a large, heated pot filled with oozing cheese.

  • 2 Museli

    Museli

    Get your day started right! Museli (also known as Birchermuseli) is a popular cereal breakfast based on uncooked rolled oats with grain, fruit and milk or yogurt. The cereal can be eaten fresh with fresh fruit, or you can buy it in a packaged dry form.

  • 3 Swiss Chocolate

    Swiss Chocolate

    wiss chocolate has earned the reputation for the highest quality chocolate in the world, with many famous international brands. In Switzerland, you can find chocolate in every store, and in any imaginable shape or form. My favorite Swiss chocolate is the famous Toblerone, and it’s actually cheap to buy! Walk into any grocery/convenient store and try a local brand of chocolate.

  • 4 Raclette

    Raclette

    Raclette is a semi-hard cow's milk cheese that is usually fashioned into a wheel of about 6 kg (13 lb). It is most commonly used for melting. It is also a Swiss dish based on heating the cheese and scraping off the melted part.

  • 5 Rösti

    Rösti

    Rösti are roughly grated potatoes that are fried in butter. They are pretty much like the most amazing hash browns that you’ve ever tasted! It was originally a common breakfast eaten by farmers in Bern, but today it is enjoyed all over Switzerland. It is often complimented with fried eggs on the side.

วีซ่าสวิตเซอร์แลนด์ แบ่งได้เป็น 2 หมวด ใหญ่ ๆ คือ 1. วีซ่าแบบ C หรือ Type C Visa (เชงเก้นวีซ่า) แบ่งตามจุดประสงค์หลัก ๆ ได้ 2 ประเภท คือ 1.1) วีซ่าท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ หรือ วีซ่าเชงเก้น เพื่อการท่องเที่ยวหรือเยี่ยมเพื่อน (Schengen Tourist Visa) 1.2) วีซ่าธุรกิจสวิตเซอร์แลนด์ หรือ วีซ่าเชงเก้น เพื่อดำเนินการทางธุรกิจ (Schengen Business Visa) วีซ่าท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ หรือ วีซ่าธุรกิจสวิตเซอร์แลนด์ (เชงเก้นวีซ่า Type C อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน) เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการไปอยู่ในประเทศเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่เกิน 3 เดือน เพื่อวัตถุประสงค์ ในการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ  เยี่ยมเพื่อน เพื่อการกีฬา แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ติดต่อธุรกิจ การเรียนระยะสั้น ซึ่งวีซ่า Type C นี้ สามารถใช้ในเขตของเชงเก้นได้ เพราะเป็นหนึ่งในสมาชิกของเขตเชงเก้นวีซ่า กรณีที่ขอ วีซ่าธุรกิจ ผู้ขอต้องมีจุดประสงค์ คือ จุดประสงค์เพื่อการไปประชุมทางด้านธุรกิจ หรือ จุดประสงค์เพื่อการไปแลกเปลี่ยนทางด้านความรู้ โดยปราศจาการฝึกงาน หรือ จุดประสงค์เพื่อการไปเข้าร่วมงานทางด้านวิทยาศาสตร์, เศรษฐกิจ, วัฒนธรรม, ศาสนา หรือกีฬา 2. วีซ่าแบบ D หรือ Type D Visa (พำนัก มากกว่า 90 วัน) – ได้แก่ วีซ่านักเรียนสวิตเซอร์แลนด์ และจุดประสงค์อื่น ที่ต้องพำนักเกินกว่า 90 วัน สำหรับผู้ที่ต้องการไปอยู่ในประเทศเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน วีซ่าประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไปเรียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ผู้ที่ต้องการไปทำงาน, ผู้ที่ต้องการย้ายมาอยู่กับครอบครัว หรือต้องการที่จะรักษาอาการป่วยในระยะยาว โดยต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ทางประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำหนดไว้ ตั้งแต่ วันที่ 11 ตุลาคม 2554 สมาชิกในกลุ่มเชงเก้น จะเริ่มต้นใช้ระบบ Visa Information System หรือ (VIS) ในการเก็บข้อมูล biometric (การพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว และถ่ายภาพดิจิตอล) ของผู้สมัครขอวีซ่า โดยเริ่มต้นที่ เมืองดังต่อไปนี้ Cairo, Tunis, Algiers and Rabat

ขอวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์

เอกสารที่ต้องเตรียม ยื่น วีซ่าเชงเก้น สวิตเซอร์แลนด์

กรณีท่องเที่ยว
  1. แบบฟอร์มสำหรับสมัครวีซ่า
  2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว 2 รูป (ตัวอย่างรูปถ่ายที่ถูกต้อง)
  3. หนังสือเดินทางเล่มจริงและสำเนา
  4. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
  5. เอกสารการจองโรงแรมในระหว่างที่ท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศในกลุ่มเชงเก้น จะต้องมีชื่อของผู้ร่วมเดินทางทุกคนอยู่ในเอกสารการจองโรงแรมนั้น ๆ
  6. ประกันการเดินทาง ที่ครอบคลุมระยะเวลาในการเดินทางภายในเขตเชงเก้นทั้งหมด โดยมีวงเงินประกันอยู่ที่ 1,500,000 บาท
  7. หนังสือรับรองการทำงาน (กรณีเป็นนักเรียนใช้หนังสือรับรองสถานภาพการศึกษา)
  8. หลักฐานการเงิน อาทิ เช่น Bank Statement ที่แสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด หรือสมุดบัญชีตัวจริงพร้อมสำเนา (โดยคิดจำนวนเงิน CHF 100 ต่อวัน)
  9. กรณีผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
9.1 สูติบัตร 9.2 หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง (ทำขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอ) กรณีที่เด็กที่ไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง 9.3 การสมัครวีซ่าจะต้องเซ็นต์โดยผู้ปกครอง ** เอกสารทุกอย่างต้องยื่นตัวจริงพร้อมสำเนา และผู้ขอวีซ่าต้องไปแสดงตัวที่สถานทูตด้วย กรณีเดินทางเพื่อดำเนินการทางธุรกิจ
  1. แบบฟอร์มสำหรับสมัครวีซ่า
  2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว 2 รูป (ตัวอย่างรูปถ่ายที่ถูกต้อง)
  3. หนังสือเดินทางเล่มจริงและสำเนา
  4. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
  5. เอกสารการจองโรงแรมในระหว่างที่ท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และประเทศในกลุ่มเชงเก้น และ/หรือ จดหมายเชิญจากประชากรในเขตเชงเก้น
  6. ประกันการเดินทาง ที่ครอบคลุมระยะเวลาในการเดินทางภายในเขตเชงเก้นทั้งหมด โดยมีวงเงินประกันอยู่ที่ 1,500,000 บาท
  7. หนังสือรับรองการทำงาน (กรณีเป็นนักเรียนใช้หนังสือรับรองสถานภาพการศึกษา)
  8. หลักฐานการเงิน อาทิ เช่น Bank Statement ที่แสดงรายการย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด หรือสมุดบัญชีตัวจริงพร้อมสำเนา (โดยคิดจำนวนเงิน CHF 100 ต่อวัน)
  9. จดหมายเชิญ ซึ่งจะต้องส่งโดยตรงเข้าที่อีเมลล์ (ban.visa@eda.admin.ch) หรือทางแฟ็กซ์ โดยจะต้องระบุดังนี้ – คำอธิบายเกี่ยวกับจุดประสงค์ทางธุรกิจหรือทางการศึกษา, ระยะเวลาที่พักในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และตารางรายละเอียดของการประชุม/ หลักสูตร/ สัมมนา/ โปรแกรมเวิร์คชอป – การค้ำประกันว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของผู้สมัครในระหว่างที่พักในเขตเชงเก้น หากไม่ระบุจำเป็นที่จะต้องส่งเอกสารการจองที่พักในช่วงเวลานั้น – หน่วยงานจะต้องรับผิดชอบผู้สมัครในการเดินทางออกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือประเทศในเขตเชงเก้นตามที่ระบุในวีซ่า
เอกสารทุกอย่างต้องยื่นตัวจริงพร้อมสำเนา และผู้ขอวีซ่าต้องไปแสดงตัวที่สถานทูตด้วย เอกสาร ขอวีซ่านักเรียน สวิตเซอร์แลนด์ (Type D พำนัก มากกว่า 90 วัน) ผู้ที่จะสมัครวีซ่านักเรียนได้ จะต้องลงทะเบียนเรียน 3 เดือนขึ้นไป
  1. แบบฟอร์มสำหรับสมัครวีซ่า
  2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว 4 รูป
  3. หนังสือเดินทางเล่มจริงและสำเนา 2 ชุด
  4. หนังสือรับรองจากทางโรงเรียน/ มหาวิทยาลัย
  5. หนังสือรับรองเกี่ยวกับการจ่ายค่าเล่าเรียนของผู้สมัคร
  6. หลักฐานทางการเงินในระหว่างที่พักอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ( Bank Statement ของผู้สมัคร / ของพ่อหรือแม่ พร้อมจดหมายสนับสนุน / ของผู้ที่สนับสนุนที่อาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
  7. ประกาศนียบัตรทางการศึกษา
  8. จดหมายรับรองว่าจะออกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์หลังจากเวลาที่ระบุตามวีซ่า (เขียนโดยผู้สมัคร)
  9. จดหมายเขียนแสดงจุดประสงค์ ในเรื่อง เหตุผลของการเรียนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ แผนในอนาคตของผู้สมัครหลังจากเรียนจบ
  10. กรณีผู้สมัครอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ – สูติบัตร – หนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง (ทำขึ้น ณ ที่ว่าการอำเภอ) กรณีที่เด็กที่ไม่ได้เดินทางพร้อมผู้ปกครอง – การสมัครวีซ่าจะต้องเซ็นต์โดยผู้ปกครอง
เอกสารทุกอย่างต้องยื่นตัวจริงพร้อมสำเนา และผู้ขอวีซ่าต้องไปแสดงตัวที่สถานทูตด้วย

ยื่นวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์

ยื่นขอวีซ่า Type C ได้ที่ ศูนย์ยื่นวีซ่า TLScontact สาทรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้นที่ 12 ถนนสาทรใต้ 175 แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพ 10120 ยื่นขอวีซ่า Type D ได้ที่ Embassy of Switzerland 35 North Wireless Road Bangkok 10330, Thailand แผนที่ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการทั่วไป : วันจันทร์ – ศุกร์ 09:00 – 11:30 น. ระยะเวลาในการดำเนินการ พิจารณาวีซ่า
  1. วีซ่าเชงเก้น ทุกประเภท : ใช้เวลาดำเนินการ 5 วันทำการ หลังจากวันที่ยื่นวีซ่า
  2. วีซ่านักเรียน หรือ วีซ่าระยะยาว สวิตเซอร์แลนด์ ใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน (เนื่องจากทางสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทยจะต้องส่งเรื่องให้กับกองตรวจคนเข้าเมืองในแต่ละรัฐของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้ตัดสินใจ)
COPYRIGHT © 2017 GDS GROUP TRAVEL CO.,LTD ALL RIGHTS RESERVED.